No.5 Kuroya Maoka
วันนั้น…ครั้งแรกที่ผมได้พบกับมาโอกะคุงในวนสาธรณะยามค่ำคืน ผมที่มัวแต่นั่งเหม่อมองท้องฟ้ายามราตรีถูกเด็กคนนั้นทัก
‘อา~ พี่ชายอยู่คนเดียวเหรอครับ?’
‘อื้อ แล้วนายคือ…?’
‘ผมคุโรยะ มาโอกะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ’
.
.
…ถึงจะบอกว่าตั้งใจจะสร้างกลุ่มแต่เอาจริงๆตลอดหนึ่งเดือนนี้ก็ไม่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเลย
ผมเดินลัดเลาะไปตามถนนเดินเล่นอย่างไร้จุดหมาย ผมลืมไปได้ไงว่ายังไงคนที่มีพลังดวงตาก็ต้องเหมือนผมกับคาสึมิซังที่ปิดบังสิ่งนั้นมาตลอดจนถึงเมื่อเดือนก่อน
“เฮ้อ….”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่สลัดความคิดมากนี้ออกไป แค่เดินเล่นเฉยๆแบบนี้ไม่มีทางหาสมาชิกได้หรอก..
“ปีศาจ!!”
! เสียงตะโกนของเด็กๆดังมาจากทางสวนสาธารณะที่ผมเดินผ่านพอดี ด้วยความสงสัย ผมจึงรีบเข้าไปดูแล้วก็พบ…ปีศาจ รูปร่างขนาดใหญ่ ไม่สามารถบอกหน้าตาเพราะมุมที่ผมอยู่ไม่อำนวย
พวกเด็กๆตะโกนด้วยความหวาดกลัววิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง ผมจ้องค้างไปยังจุดๆนั้น ไม่ใช้เพราะกลัวจนขยับไม่ได้แต่เพราะร่างปีศาจนั้นค่อยๆจางลงและปรากฎเป็นเพียงเด็กผู้ชายผู้สวมฮู้ดเขาปีศาจอันเป็นเอกลักษน์ประจำตัวที่ผมจำได้ดี
ไม่ผิดแน่ นั้นมาโอกะคุง!
มาโอกะคุงคือเด็กผู้ชายที่ผมรู้จักตั้งแต่เมื่อก่อนเดือนก่อน เป็นเพียงเด็กซนๆธรรมดาที่ชอบมากินขนมด้วยกันและมักบอกว่าตัวเองเป็นปีศาจด้วยเหตุผลปริศนา ไม่คิดเลยจริงๆว่าปีศาจนั้น…
“จะเป็นพลังดวงตา…”
คำพูดที่เผลอหลุดปากไปทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวและตั้งท่าจะหนีก่อนที่จะเห็นหน้าของผมแล้วเอ่ยว่า
“พี่…คาซึมะ…?”
———————————————-
อีกฝ่ายยังคงนั่งนิ่งมาตั้งแต่เมื่อครู่ ผมไม่รู้จะทำยังไงจึงเพียงแค่นั่งอยู่เป็นเพื่อนรอข้างๆ ม้านั่งตรงนี้แทบเป็นที่เดียวที่มีคนนั่งอยู่ก็ว่าได้เพราะตอนนี้สวนสาธารณะโล่งขึ้นถนัดตาส่วนนึงก็คงเป็นเพราะเด็กๆเห็นมาโอกะคุงร่างปีศาจล่ะมั้ง..
ผมทนความเงียบไม่ไหวจึงเป็นฝ่ายเริ่ม
“ว่าแต่ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับ?”
มาโอกะคุงชะงักก่อนจะยกขาขึ้นมากอดเข่าตัวเองแน่นอย่างไม่อยากนึกถึงมากนัก
“…ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรครับ”
“เมื่อกี้…”
มาโอกะคุงค่อยๆเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น ผมได้ฟังที่ตีความได้ว่ามาโอกะคุงเพียงแค่ต้องการจะเล่นด้วยแต่ถูกปฏิเสธ ซ้ำยังโดนล้อและแกล้งใส่ ด้วยความโกรธจึงปล่อยพลังออกมาเพื่อไล่พวกนั้นไป
“อีกแล้วครับพี่คาซึะ ผม ผมน่ะ…”
เหมือนว่านี้จะไม่ใช้ครั้งแรก มาโอกะคุงน้ำตาคลอออกมาหน่อยๆ
“ไม่เป็นไรครับมาโอกะคุง ผมรู้ว่ามาโอกะคุงไม่ได้ตั้งใจ โอ๋ๆครับ ไม่ร้องครับไม่ร้อง…”
ผมยื่นมือไปลูบหัวปลอบมาโอกะคุงอย่างเห็นใจ ที่มาโอกะคุงทำไปเพื่อป้องกันตัวสินะ จะรู้ตัวรึเปล่าว่ายิ่งทำแบบนั้นจะยิ่งทำให้ต้องเดียวดายกว่าเดิมจากความหวาดกลัวของผู้คน ตอนนั้นผมถึงนึกขึ้นได้
“ถ้าเหงา.. จะมาอยู่กลุ่มของคนที่มีพลังดวงตาเหมือนมาโอกะคุงกับผมไหมครับ?”
มาโอกะคุงเอียงคอมองอย่างงงๆน้ำตายังติดอยู่ที่ขอบตาพร้อมทวนคำเบาๆ
“กลุ่มที่มี…พลังดวงตา…?”
“ยังไงก็ตามผมมาได้ไหมครับ?”
ผมเล่าถึงเรื่องที่เกิดเมื่อหนึ่งเดือนก่อนให้ฟัง เรื่องที่ยังมีผมกับคาสึมิอีกคนที่มีพลัง มาโอกะคุงเดินตามมาตั้งใจฟังอย่างตื่นเต้น ผมรู้สึกเหมือนกับเห็นประกายแห่งความหวังในดวงตาคู่นั้นอย่างไรอย่างนั้น
“นี้เรากำลังจะไปไหนหรือครับพี่คาซึมะ?”
ผมซึ่งเดินนำไปก่อนหน่อยๆหยุดอยู่หน้าประตูแล้วจึงหันหน้ามาหามาโอกะคุง
“ฐานทัพลับครับ ตอนนี้ไม่รู้ว่าคาสึมิอยู่รึเปล่าแต่ก็ไม่เสียหายที่จะเข้าไปดู—”
มือของผมพลาดคว้าลูกบิดประตูเมื่อจู่ๆประตูก็เปิดเองโดยคนอีกฝั่ง ผมสีชบาอ่อนที่คุ้นเคยกระตุกกลับเมื่อเจ้าของหยุดเดิน
“อ่ะ พอดีเลยคะคาซึมะ ฉันพาสมาชิกใหม่มาล่ะ”
“สมาชิกใหม่?”
“ค่ะ เอ้าออกมาเร็วคันนะ ยูสุเกะ”
เด็กผู้หญิงผมสีขาวยาวจรดเข่าโผล่ตาสีคริสตัลใสมาจากข้างหลังคาสึมิหวาดๆ ในมือ ถือไอโฟนที่เหมือนจะมีคนอยู่ข้างใน
“อ อา…ยินดีที่ได้..ร..รู้จัก…ค่ะ”
“หัวหน้าไม่ใช้ผู้หญิงเหรอ บู่ว แบบนี้ก็จีบไม่ได้น่ะสิ”
—เมะสึกิดัน สมาชิกปัจจุบัน 5 คน—
One comment